ปัจจุบันสถาบันการเงินยังคงเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย(สินเชื่อบ้าน) ทำให้ตัวเลขการการปฏิเสธสินเชื่อยังคงสูงอยู่ และยังมีแนวโน้มว่าจะสูงเพิ่มขึ้นไปอีก หลังสถานการณ์เงินเฟ้อทวีความรุนแรงมากขึ้น
ท่ามกลางสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว ภายหลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จนถึงปัจจุบันทำให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มพุ่งสูงต่อเนื่อง และมีผลต่อแผนการใช้จ่ายของผู้บริโภคอย่างเลี่ยงไม่ได้ จนนำไปสู่การก่อหนี้เพิ่มขึ้น ทั้งโดยตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งจากผลสำรวจสถานภาพแรงงานไทย กรณีศึกษากลุ่มตัวอย่างแรงงานไทยที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน ปี 65 โดยศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พบว่า แรงงานไทยมีหนี้ถึง 99% ส่งผลให้ปี65นี้ ภาระหนี้ครัวเรือนปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.09% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ แรงงานกว่า 31.5% มีการผิดนัดชำระหนี้จากสถาบันการเงิน
ผลกระทบจากการแพร่ระบากของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจต่าง ๆ ทำให้มีการลดการจ้างงาน ลดเวลางานล่วงเวลาและบางธุรกิจมีการลดเงินเดือนของพนักงานลง เพื่อประครองให้ธุรกิจอยู่รอด ทำให้รายได้ของผู้บริโภคลดลงไปด้วย ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ทำให้สถาบันการเงินเข้มงวดในการพิจารณาปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย(สินเชื่อบ้าน) มากขึ้นโดยเข้มงวดการพิสูจน์รายได้ของผู้ขอสินเชื่อบ้านอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะผู้ขอสินเชื่อที่ทำงานในกลุ่มธุรกิจเสี่ยงเช่น ธุรกิจท่องเที่ยว พนักงานขาย และพนักงานห้างสรรพสินค้า ฯลฯ
การเข้มงวดดังกล่าว ทำให้ตัวเลขการปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัยในปัจจุบันยังคงอยู่ในระดับสูงเพราะนอกจากการเข้มงวดในการพิสูจน์รายได้ผู้ขอสินเชื่อแล้ว แบงก์ยังประเมินความสามารถในการก่อหนี้ของผู้บริโภคลดลง เพราะมีการนำปัจจัยเสี่ยง รายจ่ายและ ภาระหนี้ต่าง ๆ เข้ามาร่วมประเมินและคำนวณวงเงินการอนุมัติสินเชื่อ ทำให้โอกาสถูกปฏิเสธสินเชื่อของกลุ่มผู้บริโภคที่ไม่มีรายได้ประจำหรือผู้ไม่ได้เป็นพนักงานประจำสูงขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มที่ทำธุรกิจส่วนตัว ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่ไม่มีประวัติการเงินในระบบ
กลุ่มธุรกิจที่แบงก์ขึ้นลิสรายชื่อว่ามีความเสี่ยงสูง
1.ธุรกิจการบิน 2. ธุรกิจท่องเที่ยว 3.ธุรกิจโรงแรม 4.ธุรกิจอสังหาฯ และ5.ธุรกิจค้าขาย(ธุรกิจส่วนตัว) โดย 5 กลุ่มนี้ คือกลุ่มที่แบงก์ประเมินให้ความสามารถในการก่อสร้างลดลงอย่างชัดเจนดังนั้นโอกาสในการถูกปฏิเสธสินเชื่อจึงมีอยู่สูง พบว่าว่าอุปสรรคการขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยมาจากรายได้และอาชีพที่ไม่มั่นคงถึง59% ตามมาด้วยมีประวัติทางการเงินที่ไม่ดี (46%) และไม่มีเอกสารประกอบที่เพียงพอ(38%) สะท้อนให้เห็นว่าปัญหาการเงินมีความสำคัญอันดับต้นๆ
คะแนนเครดิต (Credit Scoring)
การอนุมัติการกู้เงินสถาบันการเงินจะมีการตรวจสอบประวัติการเงินของผู้ยื่นขอสินเชื่อต่อธนาคารหรือสถาบันการเงินเพื่อนำข้อมูลจากเครดิตบูโรมาตรวจสอบคุณสมบัติต่างๆของผู้กู้ เช่น พฤติกรรมการใช้เงินและวินัยในการผ่อนชำระหนี้ การผิดนัดชำระหนี้ ฯลฯ เพื่อประกอบการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อโดยเฉพาะการขอสินเชื่อบ้านหรือคอนโดฯ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีราคาสูงและใช้ระยะเวลาผ่อนชำระยาวนาน ธนาคาร/สถาบันการเงินจึงมีเกณฑ์พิจารณาจากหลายปัจจัยประกอบกันและให้เป็นคะแนน (หรือเรียกว่าเป็นเครดิตสกอร์)หากผู้ขอยื่นกู้มีประวัติการชำระหนี้ที่ดีอย่างต่อเนื่องคะแนนส่วนนี้สูงก็มีแนวโน้มที่จะได้รับการอนุมัติสูง แต่ถ้าหากผู้กู้มีประวัติการชำระหนี้ไม่ดีผ่อนชำระหนี้ไม่ตรงตามกำหนด หรือมียอดค้างชำระหนี้เป็นจำนวนมากทำให้คะแนนส่วนนี้ต่ำกว่าเกณฑ์จะส่งผลให้ธนาคาร/สถาบันการเงินมีแนวโน้มที่จะไม่อนุมัติสินเชื่อได้
นอกจากนี้ผู้บริโภคควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมก่อนกู้ซื้อบ้าน/คอนโดฯ ว่าฐานเงินเดือนที่มีนั้นสามารถขอวงเงินกู้สูงสุดได้เท่าไร เป็นการวางกรอบในการเลือกซื้ออสังหาฯ ในราคาที่ไม่สร้างภาระจนเกินกำลังพร้อมเปรียบเทียบแคมเปญสินเชื่อที่มีดอกเบี้ยและเงื่อนไขที่เหมาะสม และเตรียมเอกสารต่างๆ ให้พร้อมก่อนทำการยื่นกู้ แม้เครดิตบูโรจะเป็นปัจจัยหนึ่งในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อแต่การมีประวัติการเงินที่ดีก็ถือเป็นแต้มต่อสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้ได้รับการอนุมัติสินเชื่อมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาใดที่อยู่อาศัยก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับผู้บริโภคแม้จะเป็นการเพิ่มภาระหนี้ก้อนใหญ่แต่มาพร้อมความมั่นคงในชีวิต และความคุ้มค่าของการลงทุนในระยะยาว จึงเป็นอีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคต้องการยื่นกู้ซื้อบ้านแม้จะมีภาระหนี้สินอยู่ก็ตาม (ฟังคลิป กู้บ้านช่วงเงินเฟ้อ)
สำหรับเจ้าของกิจการ ที่มีปัญหาขาดเงินทุนหมุนเวียน ธนาคารเริ่มคุยยากขึ้น เจ้าหน้าที่ธนาคารที่ดูแล ไม่เหมือนเดิม มาถึงตรงนี้ Antonio Attorney ทีมงานเรา พร้อมที่จะเป็นที่ปรึกษา รับหน้าที่ เจรจา แก้หนี้ ให้กับธุรกิจของคุณนะครับ สนใจติดต่อสอบถาม พูดคุยกับผมได้ ครับ 081 869 0878
หรือ ให้ผมเป็นที่ปรึกษา แบบส่วนตัว
แบบที่ 1 พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ ไม่จำกัดครั้ง คุยกันได้ตลอดชีพ ค่าบริการ 2,000 บาท ตลอดชีพ
แบบที่ 2 สามารถเจอผมได้ 1 ครั้ง คุณอาจจะพาครอบครัวหรือทีมงาน เราพูดคุยกับผมได้ ประชุมร่วมกันครับ วันนี้ขอจำกัดเวลาประมาณไม่เกิน 3 ชั่วโมงนะครับ หลังจากนั้นคุณสามารถโทรศัพท์พูดคุยกับผมได้ไม่จำกัดครั้ง แล้วคุยตลอดชีพได้เช่นเดียวกันครับ แบบที่ 2 ราคาค่าบริการ 5,000 บาทครับ
KBANK 766 2 21897 3 / SCB 407 0 55631 0
เมื่อโอนเงินแล้ว ส่งสลิปโอนเงินมาที่ LineID : @antonio ส่งสลิปมาแล้ว ไม่ต้องทักนะครับ เดี๋ยวข้อความมันจะเลื่อน ผมจะหาไม่เจอว่าใครโอนเงินมา เนื่องจาก ผมมีคนไลน์เข้ามาจำนวนมาก ส่งสลิปมาแล้วรอ ผมจะรีบติดต่อกลับนะครับ
แก้หนี้ สร้างหนี้ เราจัดการให้
ติดต่อ LineID : @antonio
ติดตามคลิปดีๆ ในแวดวงการเงิน การธนาคาร และอสังหาริมทรัพย์ ได้ที่ Youtube
และติดตามผมต่อได้ที่ Facebook/AntonioAttorney.Company
สนใจให้ผมเป็นที่ปรึกษาการเงินส่วนตัว คลิกเลยครับ
ดูคลิปพิเศษจาก Antonio https://bit.ly/3wqjila
ติดต่อ ผมที่ email : antonioattorney@gmail.com หรือ LineID : @antonio
ที่ปรึกษาสำหรับ ผู้ประกอบการ SME แก้หนี้ หรือ ขอกู้เงิน สินเชื่อ คลิกเลยครับ Antonio SME
