ดูยังไง ว่าคนนี้รวยจริง หรือไม่จริง

ครับจากชื่อบทความนี้ ว่า ดูยังไง ว่าคนนี้รวยจริง หรือไม่จริง ….. คำตอบคือ ดูยากเหมือนกันนะครับ ถ้าคุณไม่ใช่เจ้าหน้าที่สินเชื่อธนาคาร หรือ คนที่ว่า เขาเอาเอกสารทางการเงินมาให้คุณดูทั้งหมด ไม่มีทางรู้แน่นอนครับ เพราะถ้าหาก ดูแค่จากเปลือกภายนอก เช่น รถที่ขับ บ้านที่อยู่ เสื้อผ้าที่ใส่ ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ถ้าดูจากภายนอก ไม่สามารถตัดสินใจได้แน่นอนครับ ผมฟันธง

และจากประสบการณ์ การทำงานในด้านการเงินของผม ดูรายได้ งบการเงินกิจการ หรือ รายได้ สเตทเมนท์ส่วนตัว ของลูกค้ามาหลากหลาย ก็ได้ตกผลึกในความคิดของตัวเอง ว่า รายได้ ไม่สำคัญเท่าเงินเหลือ อันนี้เพื่อนๆ อาจจะเถียงว่า ไม่จริง รายได้มาก ก็ต้องดีกว่า รายได้น้อยซิ ถ้ามองแค่ผิวเผิน และไม่เคยเห็นของจริง ก็อาจจะเข้าใจและคิดแบบนั้นได้ครับ เพราะอะไร ผมจะยกตัวอย่างให้ดู นะครับ เช่น มีลูกค้า 2 คน มาขอกู้เงินกับผม ซึ่งผมเป็นแค่เจ้าหน้าที่ธนาคารนะครับ ไม่ใช่คนปล่อยกู้

คนแรก เงินเดือน 100,000 บาท เงินเดือนเข้าบัญชี ตามปกติ เราก็ดูสเตทเมนท์ เออ เงินเข้าจริง อันนี้ของจริงนี่หว่า แต่พอ เงินเข้า ไม่ถึง 2 วัน เงินแสน เหลือแค่หลักพัน บางที แย่กว่านั้น เหลือแค่หลักร้อย หลักสิบก็ยังมี แถมมีหนี้บัตรเครดิตอีกบานเลย จะมาขอกู้บ้านราคา 5-6 ล้านบาท แบบนี้ ธนาคารคิดหนักเลยนะ เพราะอะไรครับ ก็ขนาดเงินเดือนเป็นแสน พี่แกเล่นใช้เงินแค่ไม่กี่วันที่เงินเดือนออกหมด เหลือหลักร้อย เจ้าหน้าที่ถามหา บัญชีเงินออมมีไหม คำตอบคือไม่มี สุดท้ายคิดหนักซิครับ ธนาคารบอกว่า เราไม่สามารถอนุมัติให้กับคุณได้ เนื่องจาก คุณมีภาระหนี้สูง และคิดในใจคือ มึงแม่งใช้เงินโคตรเก่งเลยวะ อันนี้ ข้อแรกของ หลักการปล่อยสินเชื่อก็ไม่ผ่านละ คือ Character หรือ ทรงคนกู้ ไม่ผ่าน แต่ถ้าธนาคาร ให้กู้ไปนะ ผมบอกเลย อีกไม่นาน หนี้เสียแน่นอน ฟันธง

มาดูคนที่สอง เงินเดือนรวมกัน 2 คนผัวเมีย 40,000 จะมากู้บ้านทาวน์เฮาส์ โครงการใหม่ ที่ราคาประมาณ สองล้านนิดๆ สองคนผัวเมีย รายได้ครอบครัว 40,000 บาท มีรถเก่าๆ อยู่ 1 คัน ผ่อนหมดแล้ว บัตรเครดิต มีผ่อนสินค้าคือ มือถือ อยู่นิดหน่อย ราคาเกือบหมื่น บัตรเครดิตมี แต่ชำระหนี้แบบเต็มวงเงิน มีเงินเก็บอยู่ประมาณเกือบ 300,000 บาท เก็บเงินมาหลายปีแล้ว จะเก็บเงินเดือนละ 7-8 พันบาท ใช้ชีวิตเรียบง่าย จะออกไปกินข้าวนอกบ้าน เดือนละครั้ง ครั้งนึงก็ไม่ถึงพันบาท ชีวิตมีความสุขตามอัตภาพ รายที่สอง มากู้เงินซื้อบ้านทาวน์เฮาส์ ราคาสองล้านกว่าบาท คุณคิดว่า สามีภรรยาคู่นี้ ที่มากู้ร่วม ธนาคารจะอนุมัติเงินกู้ให้ไหมครับ ธนาคาร ดูจากสเตทเมนท์ และประวัติการจ่ายหนี้ ในเครดิตบูโร ก็สามารถฟันธงได้ว่า อันนี้ลูกค้าดีครับ สเตทเมนท์เงินเดือนเข้าชัดเจน มีเงินฝากแยกบัญชี ออมเดือนละ 7-8 พันบาท มีเงินเก็บเกือบ 300,000 บาท ประวัติการจ่ายหนี้บัตรเครดิตตรงเป๊ะ

ครับ เพื่อนๆ ก็ลองนึกภาพและจินตนาการดูครับ ผมเองเป็นสินเชื่อมานาน เห็นอะไรมาเยอะ คนรวยที่เราเห็นๆ กันนะ บางทีก็ไม่ด้วยรวยจริงแบบเปลือกนอกที่เราเห็นหรอกครับ หมุนเงินติ้วๆ เป็นหนี้เป็นสินคนไปทั่ว บัตรเครดิตวงเงินเต็มเกือบทุกใบ

คุณอยากเป็นแบบไหน สองผัวเมียกินข้าวฟู้ดคอร์ท แลกคูปองคนละร้อย สุดท้าย กินอิ่ม เดินไปแลกเป็นเงินคืนได้เงินกลับบ้านอีก 40 บาท มีเงินออมในบัญชีเกือบ 300,000 บาท มองถัดจากฟู้ดคอร์ท ข้างๆ มีร้านอาหารญี่ปุ่นสุดหรู สองคนผัวเมียกินกันหลักพันบาท แต่ก่อนเข้าร้าน ต้องเช็ควงเงินคงเหลือในบัตรเครดิตก่อนนะ ว่า รูดได้อีกเท่าไร กินเสร็จรูดบัตรเครดิตกลับบ้าน ชีวิตช่างหรูหรา ไฮโซเหลือเกิน แต่ เงินในบัญชี เหลือ 40 บาท

คุณจะเลือกเป็นแบบไหน หาทางสายกลางที่คุณคิดว่าดีที่สุดของคุณให้เจอนะครับ ขอบคุณครับ

ติดตามคลิปดีๆ ในแวดวงการเงิน การธนาคาร และอสังหาริมทรัพย์ ได้ที่ YouTube

และติดตามผมต่อได้ที่ facebook/AntonioAttorney

สนใจให้ผมเป็นที่ปรึกษาการเงินส่วนตัว คลิกเลยครับ

Leave a Reply