แม่ถูกศาลตัดสินคดีบัตรเครดิต พ่อหรือลูกจะยื่นขอสินเชื่อได้หรือไม่ หรือต้องรอให้หมดอายุความ 2 ปี

ความกังวล ความรู้ และความเชื่อ กับเครดิตบูโร แบบผิดๆ ทำให้คนจะขอกู้เงิน วิตกจริตไปไกล เกินกว่าเหตุ

จากชื่อบทความนี้ อ่านแล้ว อาจจะงง นะครับ ถ้าแม่ เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต แล้วถูกฟ้อง ต่อมา ลูกหรือสามี จะขอสินเชื่อจากธนาคารได้ไหม เราจะมาแตกประเด็น แยกย่อยให้เข้าใจ แบบนี้นะครับ

ประเด็นที่ต้องพิจารณา

  1.  เรื่อง อายุความ 2 ปี คำถามคือ ต้องรอหมดอายุความ 2 ปีก่อนหรือเปล่า ประเด็นนี้ ไม่เกี่ยวกับเครดิตบูโร กรณีหนี้บัตรเครดิต หากเจ้าหนี้ไม่ติดตามหนี้ แล้วใช้สิทธิทางศาล ฟ้องลูกหนี้ภายใน 2 ปี นับจากที่ลูกหนี้ผิดนัด จะหมดอายุความในการใช้สิทธิฟ้องได้ ประเด็นนี้คืออายุความ ในการใช้สิทธิในการฟ้อง มีอายุความ 2 ปี และ อายุความอีกส่วนคือ อายุความหลังจากถูกฟ้องศาล ซึ่งในส่วนนี้คือสิทธิ์ของเจ้าหนี้ ที่จะสามารถบังคับคดี ตามยึดทรัพย์ลูกหนี้ได้ ภายหลังจากที่มีคำพิพากษาภายใน 10 ปี พูดง่ายๆคือ หลังพิพากษาแล้ว 10 ปี เจ้าหนี้ต้องตามยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ให้ได้ ถ้าเลยระยะเวลาแล้ว ตามไม่ได้ ตามไม่เจอ ถือว่าหมดสิทธิในการบังคับคดียึดทรัพย์กับลูกหนี้รายนั้น   ฉะนั้นจากคำถามที่ว่าต้องรอ อายุความหมด 2 ปีหรือเปล่า ไม่เกี่ยวกันเลยครับคนละเรื่อง เพราะ คำตอบชั้นที่ 1 ถึงอายุความหมด แต่ประวัติในเครดิตบูโรอาจจะยังไม่ลบก็ได้ ไม่เกี่ยวกัน ชั้นที่ 2 อายุความขอกรณี ของแม่ เป็นหนี้ ก็ไม่เกี่ยวกับ ประวัติเครดิตบูโรของลูก อยู่ดี
  2.  กรณีคู่สมรส หรือบุตร จะขอสินเชื่อ หากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นผู้กู้ร่วมหรือค้ำประกัน หรือไม่มีชื่อในส่วนของเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมในทรัพย์ที่ถูกอายัดบังคับคดี จะไม่มีผลใดๆ คือ ชื่อของคุณ จะไม่ปรากฏ เกี่ยวข้องในประวัติที่เป็นหนี้เสียในเครดิตบูโรเลยครับ

คู่สมรสหรือบุตร สามารถขอสินเชื่อได้ตามความสามารถด้านรายได้ อายุ ประสบการณ์ ของผู้กู้ และเงื่อนไขของธนาคารนั้นๆ ตามหลักการคือ ประวัติเสียของแม่ ไม่เกี่ยวกับลูก หรือ คนในครอบครัว ยกเว้นแต่ว่า คุณแม่ติด Fraud ในภาษาทั่วไปคือ มีประวัติที่ไม่ดี คือ มีการยื่นขอสินเชื่อมาก่อนในอดีต และเคยทำเอกสารหรือมีการปลอมแปลงเอกสารอันเป็นเท็จเพื่อยื่นขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน แบบนี้อาจจะติดประวัติ Fraud ทั้งตระกูลเลยก็ได้ เช่น บุคคลใดที่นามสกุลเดียวกับคนที่เคยติดประวัติ ธนาคารก็จะเพ่งเล็งเป็นกรณีพิเศษ หรือบุคคลใดที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเดียวกับคนที่มีประวัติ Fraud ธนาคารก็จะเพ่งเล็งเป็นพิเศษเช่นกัน

สิ่งที่ควรระมัดระวัง คือ

-ไม่ควรไปขอสินเชื่อกับธนาคารเจ้าหนี้ของมารดาที่ถูกฟ้อง
-ไม่ควรมีรายได้ที่เกี่ยวข้องกับคุณแม่ หรือกิจการของคุณแม่ ที่ถูกฟ้อง เป็นหลัก แหล่งที่มา หรือรายได้ของคุณ ความเกี่ยวเนื่องกับ กิจการหรือธุรกิจของคุณแม่ เป็นแหล่งที่มาของรายได้ของคุณอย่างชัดเจน แบบนี้ธนาคารอาจจะสงสัย และ ธนาคารอาจจะสืบข้อมูลกิจการ หรือสืบประวัติคดีการเงินของกรรมการ(แม่) ได้ ซึ่งอาจจะเจอหรือไม่เจอก็ได้ เพราะบางคดีความที่โดนพิพากษาแล้วก็ไม่ขึ้นประวัติใน blacklist ระบบเช็คแบล็คลิส กับระบบเช็คเครดิตบูโรเป็นคนละระบบกัน ผมจะมาเล่าให้ฟังในหัวข้อต่อๆ ไปนะครับ

แต่สุดท้ายนะครับ ในหลักการใหญ่ผมขอสรุปว่า ถ้าพ่อหรือแม่ เคยมีประวัติหนี้เสีย ลูกจะขอสินเชื่อ ธนาคารจะวิเคราะห์จากข้อมูลและคุณสมบัติของผู้กู้ คือ ลูก มากกว่าครับ แต่ก็อาจจะมีบ้างที่บางธนาคารจุกจิกเกินไป ก็เคยเห็นมาแล้ว ทำให้ลูกกู้ไม่ผ่านก็มี แต่โดยส่วนใหญ่ การที่คุณมีคุณพ่อหรือคุณแม่เป็นหนี้เสีย คุณยังสามารถกู้ขอสินเชื่อกับธนาคารได้ครับ การเป็นหนี้เสียมันไม่ได้ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ว่าพ่อหรือแม่ของเราเป็นหนี้เสีย เราก็จะกลายเป็นคนทึ่เป็นหนี้เสียเหมือนกัน มันไม่ใช่ มันไม่ใช่โรคเบาหวาน ที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ขอให้โชคดีนะครับ


แก้หนี้ สร้างหนี้ เราจัดการให้
ติดต่อ LineID : @antonio

ติดตามคลิปดีๆ ในแวดวงการเงิน การธนาคาร และอสังหาริมทรัพย์ ได้ที่ Youtube

และติดตามผมต่อได้ที่ Facebook/AntonioAttorney.Company

สนใจให้ผมเป็นที่ปรึกษาการเงินส่วนตัว คลิกเลยครับ

ดูคลิปพิเศษจาก Antonio https://bit.ly/3wqjila

ติดต่อ ผมที่ email : antonioattorney@gmail.com หรือ LineID : @antonioattorney

ที่ปรึกษาสำหรับ ผู้ประกอบการ SME แก้หนี้ หรือ ขอกู้เงิน สินเชื่อ คลิกเลยครับ Antonio SME

 

Leave a Reply