สินเชื่อ นาโนไฟแนนซ์ กับ สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ คืออะไร และทั้ง 2 สินเชื่อนี้ หลักเกณฑ์ในการขออนุมัติสินเชื่อ แตกต่างกันอย่างไร
หนี้ครัวเรือนพุ่ง นาโนไฟแนนซ์ พิโกไฟแนนซ์ ได้รับทั้ง ผลบวก และผลลบ
จากปัญหาหนี้ครัวเรือนของประเทศไทย ตอนนี้หนี้ครัวเรือน สูงถึง 14.6 ล้าน ล้านบาท คิดเป็น 90.1% ต่อ GDP หนี้นอกระบบเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าตัว ภายในระยะเวลา 2 ปี หลังเกิดโควิด ขนาดผู้ปล่อยกู้ในระบบเช่น ผู้ให้กู้สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ และผู้ให้สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ ยังโดนลูกหลง เจ็บตัวไปด้วย จากการที่ตัวเลข NPL ขอสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ พิโกไฟแนนซ์ สูงถึงเกือบ 25%
การที่ตัวเลขหนี้ครัวเรือนยังคงอยู่ในระดับสูง และการขยายตัวของหนี้นอกระบบ และหนี้ในระบบสถาบันการเงินลุกลามเป็นหนี้เสีย และหนี้เสีย อาจจะเข้าไปสู่ระบบสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์และสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ ไม่ต้องบอกก็ได้เลยครับว่า เป็น covid effect ที่ประชาชนคนทั่วประเทศรับผลกระทบ ค่อนข้างที่จะยืดเยื้อยาวนานและเรื้อรัง

ยอดค้นหาใน Google พุ่ง ” เงินกู้ เงินด่วน “
เชื่อไหมครับว่าในช่วงโควิด เมื่อเราเข้าไปหาข้อมูลจาก google trend จะพบคำว่า ” เงินกู้ เงินด่วน ” มีอัตราการค้นหาใน google เพิ่มขึ้นสูงถึง 30% หนี้นอกระบบเบ่งบานรับ covid จริงๆครับ
อีกเหตุผลนึงที่คนมักจะไปกู้นอกระบบ เพราะสินเชื่อในระบบสถาบันการเงิน โดยเฉพาะธนาคาร เข้มงวดในการปล่อยกู้ จะเรียกได้ว่าเข้มงวดกันแบบสุดๆ โอกาสที่หลายคนในยุคนี้จะมีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์เพื่อได้รับเงินกู้เหนื่อยครับ หลายคน จึงเบี่ยงเบนเข็มทิศไปที่การกู้ กับสินเชื่อที่จะเรียกว่าอยู่ในระบบ และถูกการควบคุมจากธนาคารแห่งประเทศไทย ก็คือสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ และสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ 2 สินเชื่อนี้ น่าจะเป็นที่พึ่งหวังของพี่น้องประชาชนได้ เนื่องจากหลักเกณฑ์ในการปล่อยกู้ง่ายกว่าธนาคาร แต่ก็ต้องแลกมาด้วยดอกเบี้ยอันสุดโหด แต่สำหรับผมถือว่ารับได้ครับ ดีกว่าจะไปกู้เงินนอกระบบดอกเบี้ยร้อยละ 5 10 หรือบ้าระห่ำไปที่ 20% ต่อเดือน มาถึงตรงนี้แล้ว หลายคนที่เดือดร้อน อยากจะหากู้เงิน ชักเริ่มอยากจะทำความรู้จัก เจ้าสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ และสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ มาครับ ตามผมมา ผมจะมาอธิบาย หลักเกณฑ์ในการปล่อยกู้ ของสินเชื่อ ทั้ง 2 ประเภทนี้ครับ
มาทำความรู้จัก สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ กับ พิโกไฟแนนซ์
นาโน ไฟแนนซ์ สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพ สินเชื่อ Nano Finance เป็นผลิตภัณฑ์สินเชื่อรายย่อย ที่ไม่มีหลักประกันที่มีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปใช้ในการประกอบอาชีพ เป็นการส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ รวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่โดยรวมของประชาชน และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอันเนื่องมาจากปัญหาหนี้นอกระบบ สาระสำคัญของสินเชื่อเพื่อ Nano Finance มีดังนี้
นาโนไฟแนนซ์
- นาโนไฟแนนซ์ เป็นสินเชื่อเพื่อประกอบอาชีพ เช่น ร้านค้า เจ้าของกิจการต่างๆ
- วงเงินสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
- ดอกเบี้ย ไม่เกิน 33% ต่อปี
- นาโนไฟแนนซ์ ไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
- ไม่จำกัดพื้นที่ให้บริการ
พิโกไฟแนนซ์
- พิโกไฟแนนซ์เป็นสินเชื่อเอนกประสงค์ ท่านสามารถขอเงินกู้ ไปใช้อะไรก็ได้
- วงเงิน สูงสุด ไม่เกิน 100,000 บาท
- ดอกเบี้ย ไม่เกิน 33% ต่อปี ในช่วงโควิดนี้ ลดลงเหลือ 33% จากเดิม สูงสุด 36% สำหรับวงเงินไม่เกิน 50,000 บาท และ 28% สำหรับวงเงิน 50,001-100,000 บาท
- มี หรือ ไม่มี หลักทรัพย์ค้ำประกันก็ได้
- ให้บริการได้ในเฉพาะพื้นที่จังหวัดที่ท่านอยู่อาศัย เป็นภูมิลำเนา หรือที่ทำงาน บ้านพัก
ผมขอสรุปข้อแตกต่างระหว่าง สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ กับ สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์
- ทั้งสองสินเชื่อให้วงเงินกู้สูงสุด 100,000 บาท
- พิโกไฟแนนซ์ กู้ไปทำอะไรก็ได้ ส่วนนาโนไฟแนนซ์ กู้ไปประกอบอาชีพ
- สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ส่วนสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ จะมีหลักประกันหรือไม่มีก็ได้
- ดอกเบี้ยสูงสุดที่ 33% คิดแบบลดต้นลดดอก ทั้งนาโนไฟแนนซ์และพิโกไฟแนนซ์
- นาโนไฟแนนซ์คุณจะกู้ที่ไหนก็ได้ ส่วนพิโกไฟแนนซ์กู้ได้เฉพาะพื้นที่ ที่คุณ อยู่อาศัยภูมิลำเนา หรือที่ทำงานของคุณ
ปัจจุบันนี้ ทั้งสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ ผู้ประกอบการหลายราย พร้อมปิดฉากม้วนเสื่อกลับบ้าน เพราะลูกค้า หรือลูกหนี้ พร้อมใจกันเป็นหนี้เสีย สัดส่วน NPL อยู่ระหว่าง 15-25%0อัตราดอกเบี้ยที่เก็บได้สูงสุด คือ 33% จากเดิม 36% ในช่วงก่อนโควิด สำหรับผม สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ หรือพิโกไฟแนนซ์ คือสินเชื่อตัวสุดท้าย ที่ส่วนใหญ่ลูกหนี้ไปไหนไม่รอด อาการร่อแร่ ก็มักจะมาขอกู้ กับสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ หรือนาโนไฟแนนซ์ สุดท้ายพอกู้ได้ ผมพนันได้เลยครับว่า ลูกหนี้ กลุ่มนี้เหล่านี้ ก็ไปกู้หนี้นอกระบบต่อครับ เชื่อผมสิ แบบนี้ไปไม่รอดแน่นอน ทั้งคนกู้และคนให้กู้เอาใจช่วยผู้ประกอบการให้กู้นะครับ มีข่าวออกมาแล้วว่า ผู้ประกอบการ นาโนไฟแนนซ์ และพิโกไฟแนนซ์ ขอยกเลิกกิจการ ปิดกิจการไปแล้วหลายราย

สนใจให้ผมเป็นที่ปรึกษาการเงินส่วนตัว พูดคุยกันได้ตลอดไม่จำกัดครั้ง คุยกันตลอดชีพครับ ทำตามขั้นตอนนี้ครับ
ถ้าคุณสนใจ โอนเงินค่าบริการมาที่ บัญชี ชื่อ ยุทธนา โกษากุล
KBANK 766 2 21897 3 / SCB 407 0 55631 0
แบบที่ 1 พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ ไม่จำกัดครั้ง คุยกันได้ตลอดชีพ ค่าบริการ 2,000 บาท ตลอดชีพ
แบบที่ 2 สามารถเจอผมได้ 1 ครั้ง คุณอาจจะพาครอบครัวหรือทีมงาน เราพูดคุยกับผมได้ ประชุมร่วมกันครับ วันนี้ขอจำกัดเวลาประมาณไม่เกิน 3 ชั่วโมงนะครับ หลังจากนั้นคุณสามารถโทรศัพท์พูดคุยกับผมได้ไม่จำกัดครั้ง แล้วคุยตลอดชีพได้เช่นเดียวกันครับ แบบที่ 2 ราคาค่าบริการ 5,000 บาทครับ
เมื่อโอนเงินแล้ว ส่งสลิปโอนเงินมาที่ LineID : @antonio ส่งสลิปมาแล้ว ไม่ต้องทักนะครับ เดี๋ยวข้อความมันจะเลื่อน ผมจะหาไม่เจอว่าใครโอนเงินมา เนื่องจาก ผมมีคนไลน์เข้ามาจำนวนมาก ส่งสลิปมาแล้วรอ ผมจะรีบติดต่อกลับนะครับ
แก้หนี้ สร้างหนี้ เราจัดการให้
ติดต่อ LineID : @antonio / 081 869 0878
ติดตามคลิปดีๆ ในแวดวงการเงิน การธนาคาร และอสังหาริมทรัพย์ ได้ที่ Youtube
และติดตามผมต่อได้ที่ Facebook/AntonioAttorney.Company
สนใจให้ผมเป็นที่ปรึกษาการเงินส่วนตัว คลิกเลยครับ
ดูคลิปพิเศษจาก Antonio https://bit.ly/3wqjila
ติดต่อ ผมที่ email : antonioattorney@gmail.com หรือ LineID : @antonio
ที่ปรึกษาสำหรับ ผู้ประกอบการ SME แก้หนี้ หรือ ขอกู้เงิน สินเชื่อ คลิกเลยครับ Antonio SME
