หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของโควิด19 เมื่อปลายปี 2562 เนื่องจากเป็นโรคอุบัติใหม่ ทำให้คนส่วนใหญ่กังวลถึงเรื่องค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยการทำงาน หากเกิดการติดเชื้อ ซึ่งธุรกิจประกันภัยสามารถเข้ามาช่วยแบ่งปันภาระปัญหาตรงนี้ได้ โดยออกเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ หนึ่งในนั้นคือประกัน “เจอจ่ายจบ” ผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก อาคเนย์ ก็เป็นหนึ่งในบริษัท ที่เข้าไปร่วมแชร์ตลาด ประกันนี้ด้วย
ในปี2563ถือว่าประกันแบบ เจอจ่ายจบ ผ่านไปได้ด้วยดี เนื่องจากเกิดการระบาดไม่หนักมาก จนมาถึงปลายปี2563 เริ่มเกิดการระบาดหนัก คือ คลัสเตอร์สมุทรสาคร และที่ถือว่าหนักที่สุดคือ คลัสเตอร์ทองหล่อ ช่วงเดือนเมษายน 2564 มีคนทำประกันเพิ่ม 7-8 ล้านกรมธรรม์ จากเดิมมีอยู่ 3 ล้านกรมธรรม์ ภายใน1-2 เดือนเท่านั้น ในเวลานั้นมีบริษัทประกันเจ้าแรกที่เริ่มรู้ตัวว่าจะรับเคลมไม่ไหว จึงประกาศขอยกเลิกประกันเจอจ่ายจบ ซึ่งขณะนั้นเกิดกระแสดราม่ามากมาย ถึงความไม่เป็นธรรมของผู้เอาประกันภัย หากมีการบอกเลิกสัญญาประกันภัยนี้
บริษัทประกัน ทะยอยปิดตัวลงไปถึง 2 บริษัท คือ บริษัท เอเชีย ประกันภัย กับ บริษัท เดอะวัน ประกันภัย เนื่องจากไม่สามารถแบกรับการขาดทุนของประกัน เจอจ่ายจบ นี้ได้
โดยข้อสรุปของดราม่าในครั้งนั้น คือ คปภ.ออกหนังสือคำสั่งนายทะเบียน 38/64 กรมธรรม์โควิดใดที่เคยมีเงื่อนไขให้บริษัทประกันภัยยกเลิกกรมธรรม์ได้ ให้ยกเลิกเงื่อนไขนั้น ให้มีผลย้อนหลังไปถึงกรมธรรมที่ได้รับอนุมัติก่อนหน้านั้นด้วย ซึ่งทำให้ทุกบริษัทประกันภัย ไม่สามารถยกเลิกกรมธรรม์ได้ โดยในที่สุด ทำให้บริษัทประกัน ทะยอยปิดตัวลงไปถึง 2 บริษัท คือ บริษัท เอเชีย ประกันภัย กับ บริษัท เดอะวัน ประกันภัย เนื่องจากไม่สามารถแบกรับการขาดทุนของประกัน เจอจ่ายจบ นี้ได้
ล่าสุด อาคเนย์ประกันภัย ก็เป็นอีกบริษัทประกันยักษ์ใหญ่อีกบริษัทหนึ่ง ที่ประกาศเลิกกิจการ ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดรับทำประกันแบบ เจอจ่ายจบ เช่นกัน ซึ่งตรงนี้ ทางอาคเนย์ยอมรับว่าประเมินความเสียหายจากการระบาดของโควิด19 ผิดพลาดเองด้วยส่วนหนึ่ง และหลังจากที่บริษัททราบแล้วว่า อาจจะไม่สามารถแบกรับการขาดทุนได้ จึงมีการเพิ่มทุนเข้ามาแล้วโดย บริษัทของผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งคือบริษัท ของคุณเจริญ สิริวัฒนภักดี เมื่อมาถึงครั้งนี้ก่อนที่จะประกาศเลิกกิจการ อาคเนย์ เห็นควรแล้วว่า ไม่ไหวที่จะฝืนต่อไปเนื่องจากมีรายจ่ายมากเกินไปที่จะรับไหว
สิ่งที่บริษัทจะทำต่อไปคือ ส่งมอบกรมธรรมม์ที่มีอยู่ทั้งหมด ทั้งที่เกี่ยวกับโควิดและไม่เกี่ยวกับโควิด ให้ คปภ. เป็นผู้มีอำนาจคืนเบี้ยใหกับผู้ทำประกัน หรือจัดหาผู้รับประกันรายใหม่แทน
การยกเลิกกิจการของบริษัทประกันภัย ย่อมมีผู่ที่ได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็น ผู้เอาประกันภัยทุกประเภท ไม่ว่าจะเกี่ยวกับโควิด หรือประกันภัยอื่นๆ หากมีการเคลมประกัน อาจจะไม่ได้รับเงินตามจำนวนที่เอาประกัน สำหรับผู้ที่ไม่เคลมประกัน อาจจะได้เบี้ยคืนไม่เต็มจำนวน หรือถูกยกเลิกกรมธรรม์ในที่สุด
ธุรกิจไหนไปไม่ไหวอย่าฝืน ถึงแม้คุณจะมีเงินเติมมันได้ตลอดเวลาก็ตาม ….
ทั้งนี้ยังมีคู่ค้าของบริษัทประกัน ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล หรืออู่ซ่อมรถ ที่ไม่สามารถเคลมกับบริษัทประกันได้ หรือได้รับการชำระเงินไม่ครบถ้วน และที่น่าสงสารที่สุด ก็คือ พนักงานของบริษัทประกันที่ต้องตกงานทันที เสี่ยงต่อการรับค่าชดเชยที่ไม่เป็นธรรมอีกด้วย
สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหานี้ หากมีการตัดจบประกันโควิด19ที่มีอยู่ และการคืนเบี้ยเต็มจำนวน หรืออาจจะปล่อยให้บริษัทประกันภัยมีการโยกย้ายกรมธรรม์ไปยังบริษัทอื่นได้ รวมไปถึงอาจจะต้องพิจารณาการปรับเบี้ยตามความเสี่ยงในช่วงขณะนั้นๆได้ จะเป็นทางออกที่ดีกว่าหรือไม่ ซึ่งหลังจากนี้ คปภ.ต้องเร่งแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน เพื่อความเป็นธรรมให้กับผู้เอาประกันภัยและบริษัทประกันภัย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ไม่ไหวอย่าฝืน จนต้องยุติกิจการ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างมากกว่า
บทสรุปในมุมมองของผม คุณอ่านบทความนี้ สุดท้ายคุณก็จะรู้ว่า อาคเนย์ประกันภัย คือหนึ่งในบริษัทกลุ่มการเงินของไทยเบฟ หรือเจ้าของคือ เสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี หลายคนรู้ดีว่าเสี่ยเจริญมีเงินมากแค่ไหน แต่ก็ยังไม่ฝืนที่จะอุ้มธุรกิจที่น่าจะไปต่อไม่ได้ เราลองเอาบทเรียนนี้ของเสี่ยเจริญ มาศึกษาดูครับ สรุปได้ว่า ธุรกิจไหนไปไม่ไหวอย่าฝืน ถึงแม้คุณจะมีเงินเติมมันได้ตลอดเวลาก็ตาม ….
แก้หนี้ สร้างหนี้ เราจัดการให้
ติดต่อ LineID : @antonio
ติดตามคลิปดีๆ ในแวดวงการเงิน การธนาคาร และอสังหาริมทรัพย์ ได้ที่ Youtube
และติดตามผมต่อได้ที่ Facebook/AntonioAttorney.Company
สนใจให้ผมเป็นที่ปรึกษาการเงินส่วนตัว คลิกเลยครับ
ดูคลิปพิเศษจาก Antonio https://bit.ly/3wqjila
ติดต่อ ผมที่ email : antonioattorney@gmail.com หรือ LineID : @antonioattorney
ที่ปรึกษาสำหรับ ผู้ประกอบการ SME แก้หนี้ หรือ ขอกู้เงิน สินเชื่อ คลิกเลยครับ Antonio SME
