คนดี ลูกหนี้ที่ดี เป็นหนี้ เกือบตาย เคล็ดลับรอดจากหนี้เสีย คือ อะไร?

บทความนี้ ผมเอามาจากทริปล่าสุดของผม ซึ่งผมได้เดินทางไปพบลูกค้าที่จังหวัดระนอง ครั้งนี้ผมมีภารกิจต้องไปทำงาน ในฐานะที่ปรึกษาการเงินให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นบริษัทแปรรูปอาหารทะเลส่งออก หน้าที่ผมก็คือ ไปคุยกับฝ่ายบัญชี และการเงินของบริษัทลูกค้า เพื่อตรียมการปิดงบการเงิน ประจําปี 2563 ปิดงบให้กู้เงินธนาคารผ่าน นั่นแหละครับงานของผม

ทริปนี้ ถือว่าเป็นเรื่องโชคดีของผม ที่ลูกค้า พาไปพบผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ซึ่งผมเคยได้ยินชื่อเสียงมาตั้งแต่สมัยผมเด็กๆ เป็นนักธุรกิจรุ่นเก่า ยุคบุกเบิกของจังหวัดระนองเลยทีเดียวครับ มีตำแหน่งแห่งหนของจังหวัดระนองหลายตำแหน่ง วันนี้เราจะมาคุยกันถึงประวัติของป๋า คือ คุณการุณ โฆษิตสกุล ซึ่งลูกค้าผมนับถือและเรียกว่าป๋า วันนี้ได้มีโอกาสมาทานข้าวกับป๋า 1 มื้อ ถือว่าผมได้โอกาสในการเรียนรู้ประสบการณ์ในการใช้ชีวิต และประสบการณ์ในการทำธุรกิจ ก็จะขอถ่ายทอดให้เพื่อนๆทราบ บางส่วน ในบทความนี้ครับ

ป๋า การุณอายุ 80 กว่าแล้วครับ แต่ยังแข็งแรงมาก วันนั้นนั่งดื่มเหล้า Double Black กับพวกผมน่าจะหมดไป 2 เกือบกลม ไม่ธรรมดานะครับ ป๊าบอกว่าดื่มเหล้าอย่าเร่ง ค่อยๆ ริน ไม่มีเมาแน่นอน กินให้สนุก อย่ากินให้เมา ป๋ายังแข็งแรงมาก ป๋าบอกว่า เวลาขึ้นกรุงเทพฯ จะไม่นั่งเครื่องบินจะขับรถไป คนอายุ 80 กว่า ขับรถไปกลับกรุงเทพ-ระนอง พันกว่ากิโล ไม่ธรรมดาล่ะครับ ที่รู้มาขับรถเร็วซะด้วย ป๋าใช้รถ Mercedes Benz ป๋าบอกว่ารถมันดี มันเซฟชีวิตเราได้ ผมเองยังไม่แน่ใจเลยว่า ถ้าอายุเท่าป๋าผมจะแข็งแรงแบบนี้หรือเปล่า

เรานั่งทานอยู่ที่ร้านอาหารแลเล เป็นร้านอาหารในรีสอร์ท ที่ชื่อ จันทร์สมบีช รีสอร์ท คือรีสอร์ทของป๋าการุณเองครับ รีสอร์ทแห่งนี้เป็นรีสอร์ทเก่าแก่มีเนื้อที่ทั้งหมด ประมาณ 200 กว่าไร่ ป๋าบอกว่าค่อยๆทำ ไม่เน้นการตลาดมาก ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามสภาพพอเพียง แต่จะบอกว่าในภาพรวมของรีสอร์ทแห่งนี้ ไปรับการรีวิวจากผู้เข้าพักอยู่ในระดับ 4/5 ดาวนะครับ แปลว่า บริการโดยรวมไม่ธรรมดานะครับ ถึงแม้จะบอกว่าการทำธุรกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป เท่าที่ผมอ่านรีวิวมา 80% บอกว่าอาหารที่นี่อร่อย บริการดี ประทับใจ ผมการันตีว่า อร่อยจริง มีอยู่เมนูหนึ่งที่ผมติดใจมาก คือต้มปลาผมก็จำชื่อปลาไม่ได้ต้มคล้ายๆต้มจับฉ่าย หวานๆเปรี้ยว น่าจะชื่อ “ต้มปลาหลุมพุก” เคี่ยวจนปลานิ่ม กินกระดูกเคี้ยวได้เลยครับ อร่อยสุดยอดครับ ซดแป๊บเดียวหมดชาม

เริ่มคุยกันแรกๆ ทีมพวกผมก็เกร็งเล็กน้อย พอเริ่มดื่มได้สักแก้วที่ 2 แก้วที่ 3 เริ่มครึกครื้นขึ้นมา ป๋าการุณ ก็เริ่มเล่าเรื่องในอดีต พวกผมในฐานะเด็ก ก็ซักถามด้วยความสนใจอยากรู้ ป๋าบอกว่า เป็นคนกรุงเทพฯ อยู่ที่บางโพ เริ่มทำธุรกิจที่จังหวัดระนอง เริ่มด้วยธุรกิจโรงเลื่อยไม้ กิจการใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ ก็ได้ขยับขยายซื้อที่ ซื้อทาง และทำธุรกิจอีกหลากหลาย ในจังหวัดระนอง ป๋าการุณ เคยทำธุรกิจรีสอร์ท คือจันทร์สม ธารา และจันทร์สม บีช รีสอร์ท จันทร์สมธาราอยู่ในอำเภอเมือง ส่วนจันทร์สมบีช รีสอร์ทคือ ที่ผมกำลังนั่งทานข้าวอยู่ ในยุคนั้นป๋ารุ่งเรืองมาก ขยายกิจการไปหลากหลายมากมาย ยุคก่อนปี 40 นักธุรกิจใหญ่ระดับจังหวัดแบบนี้ไม่น่าจะพลาดเงินกู้ BIBF สินเชื่อยอดฮิตในยุคนั้น คือ กู้เงินจากต่างประเทศเข้ามาในรูปของเงินดอลลาร์ อัตราดอกเบี้ยต่ำมาก นักธุรกิจน้อยใหญ่ไม่พลาดครับสำหรับเงินกู้ประเภทนี้เป็นหนี้กันเกือบทุกราย รวมถึงป๋าการุณก็ไม่พลาดครับ กู้มาด้วย

ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจต้มยํากุ้งปี 40 ป๋าการุณก็โดนด้วยครับ โดนไปหนักพอสมควร เอาเป็นว่าหลายร้อยล้าน เพราะกู้เงิน BIBF เป็นการกู้ในรูปแบบเงินดอลลาร์ และพอมีการลอยตัวค่าเงินบาท เงินบาทอ่อนไปเป็น 2 เท่าของค่าเงินบาทเดิม สรุปคือป๋ามีหนี้เพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว ซึ่งกรณีแบบนี้ก็คล้ายๆกับลูกค้าผม สมัยผมเริ่มทำงานธนาคารใหม่ๆ ตั้งแต่ปี 2539 ผมเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์สินเชื่ออยู่สำนักงานใหญ่ธนาคารแห่งหนึ่ง ผมเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์สินเชื่อฝ่ายธุรกิจขนาดกลาง ตำแหน่งหน้าที่ตรงนี้เองที่ทำให้ผมมีอาชีพเป็นที่ปรึกษาการเงิน จนถึงทุกวันนี้ ผมเริ่มทำงานธนาคารตั้งแต่ปี 2539 ในปีแรกจากที่อยู่ฝ่ายวิเคราะห์สินเชื่อ ก็ทำหน้าที่วิเคราะห์ และส่งเรื่องเพื่อเข้าขออนุมัติสินเชื่อ จากผู้อนุมัติอนุมัติสินเชื่อให้กับลูกค้าที่ยื่นเรื่องขอกู้ ทำเรื่องวิเคราะห์สินเชื่อหรือพูดง่ายๆคือขอวงเงินสินเชื่ออยู่ 1 ปี ก็เกิดวิกฤตต้มยำกุ้งปี 40 จากนักวิเคราะห์สินเชื่อ กลับกลายมาเป็นเจ้าหน้าที่ตามหนี้ แต่ก็ยังต้องวิเคราะห์สินเชื่ออยู่ดีครับ แต่เป็นการวิเคราะห์สินเชื่ออีกแบบ คือวิเคราะห์สินเชื่อ เพื่อให้ธนาคารเจ้าหนี้ รู้และเข้าใจศักยภาพในการจ่ายหนี้ของลูกหนี้ เพื่อให้เป็นผลดีในการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ และให้ลูกหนี้สามารถดำเนินตามแผนการปรับโครงสร้างหนี้นั้นได้ หลักการในการวิเคราะห์สินเชื่อก็คล้ายๆกัน ผมจึงมีทักษะทั้งในด้านการวิเคราะห์เพื่อขออนุมัติสินเชื่อ และการวิเคราะห์เพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้

ครับ กลับมาเรื่องของ ป๋าการุณ กันต่อ ป๋ามีหนี้เพิ่ม อีก 1 เท่าตัว จาก 1 กลายเป็น 2 นักธุรกิจรายไหนไม่ล้มทั้งยืนผมให้เตะก้นฟรีเลยครับ ป๋าการุณก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ คือล้มทั้งยืน ป๋าขึ้นศาลคดีแพ่ง โดนเจ้าหนี้ฟ้องแต่ละธนาคารจำนวน กี่มากน้อย ผมก็ไม่ทราบได้ แต่จากการพูดคุยกับป๋าบอกได้เลยว่า ป๋าประวัติโชกโชน และป๋าตกผลึกในการทำธุรกิจ ผมเรียกว่าตกผลึกได้เลย เพราะผมเองมักจะพบเจอนักธุรกิจคล้ายๆกับป๋า ที่ตกผลึกในการทำธุรกิจและเข้าใจในการทำธุรกิจ และสุดท้ายเข็ดแล้วในการกู้เงินธนาคาร ป๋าเข้าใจในหลักการเจรจาหนี้กับธนาคาร เข้าใจในแก่นของมัน ซึ่งนักธุรกิจระดับนี้ ถ้ามาว่าจ้างบริษัทผมเป็นที่ปรึกษาการเงิน เรียกได้ว่า ผมอาจจะไม่ต้องแนะนำอะไรมาก ผมอาจจะแค่มีหน้าที่เพียง จัดเตรียมเอกสาร เพื่อนำเสนอเชิงตัวเลขเท่านั้น และอีกหนึ่งงานก็คือเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายเพิ่มเติมให้ป๋าแค่นั่น นอกนั้นป๋าเข้าใจหมดแล้ว เข้าใจหลักการปรับโครงสร้างหนี้แบบแท้จริง คุยกันไปคุยกันมา สรุปก็คือว่าป๋าเอาตัวรอด จากวิกฤตครั้งนั้นได้ แต่ก็สะบักสะบอมพอสมควร ทรัพย์สินที่ป๋ามีอยู่หายไปจำนวนเยอะพอสมควร แต่ปัจจุบันทรัพย์สินที่ป๋ามีอยู่ ผมว่าก็ไม่น่าต่ำกว่าหลายร้อยล้าน

แต่ก่อนที่ป้าจะตกผลึก ในแก่นของการปรับโครงสร้างหนี้ให้รอดในมุมมองของลูกหนี้ ป๋าการุณจัดว่ามีทัศนคติที่ดี คือเป็นลูกหนี้ดี มีหนี้ต้องใช้หนี้ มีหนี้ต้องใช้หนี้ให้ตรงเวลา ใช้หนี้ให้ตรงเวลากับ มีหนี้ต้องใช้หนี้ ไม่เหมือนกันนะครับ คำว่ามีหนี้ต้องใช้หนี้ไม่จำเป็นต้องว่าต้องใช้ให้ตรงเวลาอาจจะทิ้งระยะเวลาทอดไป 2-3 ปี แล้วกลับมาใช้หนี้ก็ถือว่าเราได้ใช้หนี้แล้วนะครับ คือใช้หนี้แต่ไม่ตรงเวลา และในส่วนการใช้หนี้แบบนี้เรียกว่าเอาเงินมาทุบ ที่เขาจะเรียกกันว่าการทำ Hair Cut แต่ของป๋า การุณจัดอยู่ในประเภท ลูกหนี้ที่ดีคือเป็นหนี้ต้องใช้หนี้และพยายามใช้หนี้ให้ไม่เกินกำหนดระยะเวลา ผลสุดท้ายคือเราในฐานะลูกหนี้จะตายเอง เพราะยิ่งจ่ายก็ไม่หมด ยิ่งอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำเศรษฐกิจฝืดเคือง ยิ่งจ่ายยิ่งทำให้ธุรกิจยิ่งตายเร็ว คือขาดสภาพคล่อง ขาดกระแสเงินสด สุดท้ายก็จ่ายไม่ไหว แล้วป๋าก็เป็นหนี้เสียอยู่ดี ผมเองอยู่ร่วมในเหตุการณ์วิกฤตปี 2540 ฟันธงได้เลยครับว่าลูกหนี้ที่ดีตายเรียบ ส่วนลูกหนี้ที่อาจจะเรียกว่าไม่ดีกลับมาเกิดได้เกือบหมด

มาดูกันต่อครับว่าเมื่อเราเริ่มที่จะเป็นลูกหนี้ที่ไม่ดีจะเกิดอะไรขึ้น ขั้นตอนต่อมาหลังจากหนี้เสียคืออะไรครับ ฟ้องร้อง บังคับคดี ยึดทรัพย์ขายทอดตลาด ตอนจบคืออะไร โดนบังคับคดีขายทอดตลาดหรือขายที่ดินทรัพย์สินที่มีอยู่เพื่อมาใช้หนี้ แต่เงินที่เราไปจ่ายหนี้ช่วงที่เราเป็นลูกหนี้ที่ดี หรือที่เรียกว่าเราเป็นหนี้เราเป็นคนดีไอ้เงินตรงนั้นน่ะที่จ่ายไป แทบจะไม่มีประโยชน์เลยครับเก็บเงินตรงนั้น แล้วมาจ่ายภายหลังเกิดประโยชน์กว่า

ปัจจุบัน ที่ผมคุยกับป๋า ที่แน่ๆก็คือ จันทร์สม บีช รีสอร์ท เฉพาะตรงนี้ก็ 200 กว่าไร่เป็นที่ดินติดทะเล ในส่วนรีสอร์ทนี้ ป๋าบอกทำไปเรื่อยๆไม่เร่ง ไม่เน้นทำตลาด แต่ก็ไม่ขาดตกบกพร่องในด้านการบริการนะครับ

และธุรกิจอีกตัวนึง ที่ตอนนี้ป๋ากำลังทำอยู่ก็คือ ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งป่ามีที่ดินหลายร้อยไร่ ซึ่งจะจัดสรรปันส่วนที่ดินบางแปลงออกมาแบ่งขายเป็นที่ดินจัดสรรแบบถูกต้องเข้า พรบ.จัดสรร ซึ่งธุรกิจนี้ป๋าก็ไม่ใช้เงินกู้แบงค์เลย จากการที่พูดคุยในแผนการทำงาน แผนการตลาด แผนการขาย และแผนการเงินของป๋าในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการนี้ ผมบอกเลยว่าเป็นแผนที่ครอบคลุม ชัดเจน ระมัดระวัง และมีการป้องกันความเสี่ยงต่างๆมาอย่างดี มันบ่งบอกถึงเจ้าของกิจการ ว่ามีประสบการณ์ในการทำธุรกิจมาอย่างโชกโชน ผิดกับเหตุการณ์ในปัจจุบันนี้ซึ่งมักจะมีโค้ช หรือกูรูทั้งหลาย ชอบมาแนะนำนักลงทุนมือใหม่ว่า ไม่จำเป็นต้องมีเงินก็ทำอสังหาริมทรัพย์ หรือเป็นเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ได้ ผมอยากจะบอกว่าพวกมันบ้ากันไปแล้ว

ครังนี้ผมได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมโครงการที่ป๋ากำลังจะขึ้น เป็นที่ดินเปล่าจัดสรร จะบอกว่ามันสวยมากครับ และราคาก็ไม่แพง ถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะขายตารางวาละประมาณ 6,000 บาท ผมเองบอกแกว่าผมขอจอง 1 แปลงถ้าเริ่มเปิดขายเมื่อไหร่ ที่โครงการนี้ มี landscape ที่สวยมาก ล้อมรอบด้วยภูเขา ผมว่าไม่แพ้เขาใหญ่อากาศก็ดีมากด้วยครับ

สุดท้ายนี้ บทสรุปของบทความนี้ ผมกำลังจะบอกว่า ที่ป๋ารอดมาได้จากวิกฤติเศรษฐกิจปี 40 มี 2 ปัจจัยที่สำคัญคือ

1. หลักประกันที่ป๋ามี ส่วนใหญ่ คือ อสังหาริมทรัพย์ ยิ่งนานราคายิ่งขึ้น มูลค่าไม่ตก

2 เหตุผลที่ป๋ารอดมาได้จากวิกฤติเศรษฐกิจปี 40 คือ ป๋ากู้เงินน้อย เมื่อเทียบกับหลักประกัน ถ้าภาษาธนาคารก็เรียกว่า de ratio ต่ำมาก คิดง่ายๆว่าหลักประกัน 100 ป๋าจะกู้แค่ 60 หรือ 70 บาทเท่านั้น ซึ่งตรงนี้บางคนอาจจะขัดแย้งกับแนวคิดนี้ บางคนจะบอกว่าต้องกู้มาให้เยอะที่สุดและเต็มแม็ก แต่สุดท้ายคุณโดนยึดทรัพย์ขายทอดตลาดเงินยังไม่เหลือพอใช้หนี้ โดนฟ้องล้มละลายต่อ สุดท้ายคุณอาจจะกลับมาไม่ได้เพราะไม่เหลืออะไรเลย อาจจะเรียกได้ว่าล้มบนฟูก แต่ก็อาจจะกลับมาฟื้น กลับมาทำธุรกิจต่อไม่ได้อีก แต่กับป๋าไม่ใช่ ป๋ามีทรัพย์สินส่วนต่างที่มากพอที่ยังสามารถกลับมาทำธุรกิจต่อได้

นี่แหละครับ 2 ข้อที่ผมอยากจะบอก สรุปสั้นๆง่ายๆก็คือ คุณต้องมีหลักประกันที่ดีพอ อสังหาริมทรัพย์คือคำตอบ และคุณต้องไม่กู้เงิน มากเกินไป เป็นสัดส่วนเมื่อเทียบกับหลักประกัน 2 เหตุผลนี้ล่ะครับ ที่ทำให้ป่ารอด ทุกวันนี้ป๋ามีความสุขกับการที่ มีเพื่อนฝูง ผู้หลักผู้ใหญ่ หรือผู้ที่มีอาวุโสน้อยกว่า มาแวะเวียนพูดคุยรับประทานอาหารกับป๋าเกือบทุกวัน ผมอิจฉาชีวิตแบบนี้ของป๋าการุณ มากครับ

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณลูกค้าที่น่ารักของผมที่จังหวัดระนอง และขอบคุณป๋าการุณ โฆษิตสกุล ที่ได้ให้โอกาสผมได้ทานข้าว มื้อล้ำค่าสำหรับทีมงานผม ขอบคุณจังหวัดระนอง สวัสดีครับ

ติดตามคลิปดีๆ ในแวดวงการเงิน การธนาคาร และอสังหาริมทรัพย์ ได้ที่ YouTube

และติดตามผมต่อได้ที่ Facebook/AntonioAttorney.Company

สนใจให้ผมเป็นที่ปรึกษาการเงินส่วนตัว คลิกเลยครับ

ติดต่อ ผมที่ email : antonioattorney@gmail.com หรือ LineID : @antonioattorney

Leave a Reply