Bam บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ เข้าสู่ Red Ocean เพราะ ต้นทุนแพง หรือ รายได้หด

BAM หรือ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ ซึ่งเป็นบริษัทที่เรียกว่า AMC คือ Asset Management Company คือ บริษัท บริหารสินทรัพย์ หลักในการทำธุรกิจ คือ รับซื้อหนี้เสีย จากธนาคารมาบริหาร ติดตามหนี้ หรือฟ้องยึดทรัพย์ขายทอดตลาด แล้วนำหลักประกันมาบริหาร ที่เรียกว่า NPA หรือ เข้าไปร่วมประมูลซื้อทรัพย์จากกรมบังคับคดีมาบริหาร

BAM เป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ เก่าแก่ อาจจะเรียกว่า ที่สุดในประเทศไทยตอนนี้ก็ได้ อายุองค์กรจะพอๆกับ บริษัท บริหารสินทรัพย์ สุขุมวิท ซึ่งเริ่มก่อตั้งมาในระยะเวลาพร้อมๆกัน คือหลังจากวิกฤตเศรษฐกิจ ปี 40 ผู้ถือหุ้นใหญ่เดิมทั้ง 2 บริษัท คือ กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ

แต่ตอนนี้ BAM เป็นบริษัทมหาชน เข้าตลาดหลักทรัพย์ เรียบร้อยแล้วครับ หลังจากเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ BAM เป็นบริษัทที่เรียกได้ว่า นักลงทุนจำเป็นต้องลงทุน เพราะมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงมาก กำไร 30% – 40 % นั่นแปลว่า BAM รับซื้อหนี้ มาในต้นทุนต่ำมาก และเรียกเก็บเงินจากลูกหนี้ หักลบกลบหนี้กันแล้ว BAM จะมีกำไรประมาณ 30-40 เปอร์เซ็นต์

กองหนี้ที่ BAM ซื้อมาส่วนใหญ่ จะเป็นหนี้ ในส่วนที่มีหลักประกัน Secured Loan ฉะนั้น BAM จะมีความเชี่ยวชาญในการตามหนี้ และบริหารทรัพย์สิน ที่เรียกว่า NPA ปัจจุบัน BAM มีนโยบายที่จะแตกไลน์ธุรกิจออกไป แบ่งเป็น 2 ธุรกิจใหม่ที่กำลังจะเริ่ม

1. ธุรกิจ agent หรือโบรกเกอร์ขายอสังหาริมทรัพย์ 2. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งอาจจะร่วมจอยเวนเจอร์กับ Developer รายใหญ่ ซึ่ง BAM เองมีข้อดีคือมี asset ที่อยู่ในรูปของอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่างๆ ซึ่งสามารถนำมาบริหารจัดการ หรือลงทุนเพิ่มในโครงการ และต่อยอดได้

ปัจจุบัน ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ผู้เชี่ยวชาญบางคนบอกว่า เริ่มเข้าสู่ Red Ocean แล้ว ที่เรียกว่า สมรภูมิแดงเดือด มีคู่แข่งเข้ามาเยอะ เข้ามาแย่งประมูลซื้อหนี้เสีย ซึ่งในเมื่อมีปริมาณความต้องการมาก ก็ต้องแข่งขันในการประมูลซื้อหนี้ ต้นทุนที่ BAM คิดว่าจะได้แบบถูกๆ ต้นทุนต่ำๆ แบบเมื่อก่อน ก็อาจจะไม่ได้แล้ว หรือบางกรณีธนาคารบางแห่ง หรือหลายแห่งเริ่มที่จะบริหารหนี้เอง เนื่องจากธนาคารมองว่า ธนาคารจะมีผลประโยชน์มากกว่า ที่จะตัดหนี้เสียขายไปในราคาถูก

แบบนี้ บริษัทที่ปรึกษาการเงินอย่างบริษัทผม ก็น่าทำงานยากขึ้น เพราะที่ผ่านมา ขนาด BAM ซื้อหนี้ด้วยราคา หรือที่เรียกว่าต้นทุนถูกมาก ก็ยังเจรจาหนี้กันไม่ง่าย หากปัจจุบันและในอนาคต มีการแย่งกันซื้อหนี้เสีย ด้วยต้นทุนการซื้อหนี้ที่สูงขึ้น การที่จะขอปรับโครงสร้างหนี้ หรือ hair cut ตัดจบหนี้ก็คงจะไม่ง่าย

ฉะนั้นลูกหนี้ทั้งหลาย หรือผู้ประกอบการที่เป็นหนี้ในส่วนของสินเชื่อธุรกิจ หากเจ้าหนี้ของท่านคือ BAM คุณผู้อ่านก็จำเป็นจะต้องหามืออาชีพมาช่วยในการแก้ไขปัญหาหนี้นะครับ โชคดีครับ

ติดตามคลิปดีๆ ในแวดวงการเงิน การธนาคาร และอสังหาริมทรัพย์ ได้ที่ YouTube

และติดตามผมต่อได้ที่ Facebook/AntonioAttorney.Company

สนใจให้ผมเป็นที่ปรึกษาการเงินส่วนตัว คลิกเลยครับ

ติดต่อ ผมที่ email : antonioattorney@gmail.com หรือ LineID : @antonioattorney

Leave a Reply