ผ่อนรถไม่ไหว คืนรถกับไฟแนนซ์ วิธีไหนเจ็บตัวน้อยที่สุด

หากเราผ่อนรถกับไฟแนนซ์ เมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่ง ที่เราอาจมีปัญหาด้านการเงิน ทำให้ไม่สามารถผ่อนชำระค่างวดรถได้ บางคนไม่รู้วิธีแก้ปัญหาหนี้ ก็ปล่อย ไม่ผ่อนค่างวด สุดท้าย รถโดนยึด ไปขายทอดตลาด ไฟแนนซ์ ฟ้องขอให้ชำระหนี้ค่าส่วนต่าง ที่เงินจากการขายทอดตลาดรถ ไม่พอกับภาระหนี้ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นกรณีแบบนี้ เพราะการผ่อนรถ จะคำนวณค่ายอดผ่อน โดยใช้วิธีการคิดดอกเบี้ยแบบ flat rate คือคิดดอกเบี้ย แบบเงินต้นเป็นเส้นตรง ไม่ลดต้นลดดอก ฉะนั้นเกือบ100% ที่เมื่อนำรถไปขายทอดตลาดแล้ว จะไม่เพียงพอชำระหนี้

คราวนี้มาดูกันครับว่า จะมีวิธีอะไรบ้าง ที่แก้ปัญหา หากเรา ไม่สามารถผ่อนรถของเราคันนี้ได้

วิธีการแรก ขายรถด้วยการขายดาวน์ หรืออาจจะไม่ขายดาวน์ก็ได้ แต่ยกหนี้ให้เขาไปผ่อนแทนเราเลย โดยการให้ผู้ซื้อมาเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อกับบริษัทไฟแนนซ์รถที่เราผ่อนอยู่ วิธีการนี้ ถ้ามีคนมาซื้อรถโดยการเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อต่อจากเรา อันนี้ก็ถือว่าเรารอด

ทีนี้มาดูอีกวิธีการหนึ่ง คือการคืนรถ แบบถูกต้องตามกฎหมาย ตามมาตรา 573

แต่อย่างไรก็ตาม ในการคืนรถวิธีนี้ เจ้าหนี้หรือไฟแนนซ์รถ ก็อาจจะดำเนินคดีทางศาลกับเราได้ แต่วิธีการนี้บอกเลยครับว่า เราสู้ได้ครับในชั้นศาล มาดูกันครับว่าวิธีการนี้เป็นอย่างไร เริ่มกันเลยครับ

1. ข้อแรก หากคุณคิดว่า คุณไม่มีความสามารถในการผ่อนรถได้แล้ว ข้อนี้สำคัญที่สุดนะครับ ผมจะบอกว่า คุณต้องกัดฟัน จ่ายค่างวดรถให้เป็นปกติ คุณห้ามค้างค่างวดรถเกิน 3 งวด เพราะถือว่าผิดสัญญาเช่าซื้อ หากคุณค้างค่างวดรถเกิน 3 งวด คุณจะใช้วิธีการนี้ไม่ได้ ใครที่ค้างค่างวดรถ 1 ถึง 2 งวด ให้ไปชำระและเคลียร์ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าปรับ ดอกเบี้ยผิดนัด ค่าทวงถาม ค่าอะไรก็ตาม เคลียร์ให้จบ ข้อแรกตามนี้เข้าใจกันนะครับ

2. เมื่อเราเคลียร์ค่างวด และค่าใช้จ่ายทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว เท่ากับว่า เราเป็นหนี้ปกติตามสัญญาเช่าซื้อ ทีนี้ ก็มาถึงขั้นตอนการคืนรถครับ ให้เรานำรถไปคืนตามสถานที่ตั้งของบริษัทไฟแนนซ์ โดยการที่เราต้องทำหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อ และนำรถไปคืนตามสถานที่ ที่ตั้งของไฟแนนซ์ ในการทำหนังสือบอกเลิกสัญญานี้ คุณอาจจะทำจดหมายเพื่อส่งเอกสารหนังสือสัญญาฉบับนี้ แบบตอบรับลงทะเบียนไปที่ บริษัทไฟแนนซ์ด้วยอีกช่องทางหนึ่ง แล้วเอารถไปจอดคืนเขาแล้วก็ฝากกุญแจไว้ พร้อมกับส่งสำเนาเอกสารขอยกเลิกสัญญาเช่าซื้อ และอย่าลืมนะครับว่า เราต้องส่งสำเนาขอยกเลิกสัญญาแบบจดหมายตอบรับลงทะเบียนด้วยนะครับ เก็บไว้เป็นหลักฐาน และเก็บใบเสร็จค่างวด ค่าใช้จ่ายอื่นถ้ามี เก็บไว้ให้ดี เอาไว้เตรียมสู้ในชั้นศาลครับ

หากบริษัทไฟแนนซ์ให้เราเซ็นเอกสารอะไร ในวันคืนรถ อย่าเซ็นนะครับ เพียงเท่านี้ คุณก็ทำการคืนรถและยกเลิกสัญญาเช่าซื้อแบบถูกต้องตามกฎหมายแล้วครับ

การคืนรถด้วยวิธีการนี้เป็นการคืนรถ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 573 ” ผู้เช่าจะบอกเลิกสัญญาในเวลาใดเวลาหนึ่งก็ได้ ด้วยการส่งมอบทรัพย์สินกลับคืนให้แก่เจ้าของโดยเสียค่าใช้จ่ายของตนเอง “

แต่หากหลังจากการคืนรถแล้ว มีหมายศาลฟ้องเรียกร้อง ค่าส่วนต่างที่เราต้องชดใช้ คราวนี้เราก็ไปสู้กันในชั้นศาลครับ จะแพ้ชนะก็ให้ศาลตัดสินครับ แต่เราก็ถือว่า เราได้ทำกันคืนรถ และขอยกเลิกสัญญาเช่าซื้อแบบถูกต้องตามกฎหมายแล้ว จากขั้นตอนนี้ หากเจ้าหนี้ ไฟแนนซ์ ฟ้องศาลเรียกร้องส่วนต่าง ก็คงแล้วแต่อำนาจการตัดสิน และพิพากษาคดีตามดุลยพินิจของศาลครับ

สุดท้ายนี้ ผมจะนำว่า ให้เราใคร่ครวญและพิจารณาดีๆ ก่อนที่เราจะซื้อรถ เพราะเราต้องขับรถและผ่อนมันไปอย่างน้อย 4-5 ปี หากเราผ่อนไม่ไหวปัญหาที่เกิดจะตามมาทำให้เราปวดหัวได้ครับ

สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่ผ่อนรถไม่ไหวนะครับ และกำลังจะโดนยึดรถ หากคุณมีการค้างค่างวดเกิน 3 งวดแล้ว คุณจะใช้วิธีนี้ไม่ได้นะครับ เพราะถือว่าคุณผิดสัญญาเช่าซื้อแล้ว การคืนรถและยกเลิกสัญญาเช่าซื้อที่ถูกต้อง คือคืนในห้วงเวลาที่เรายังเป็นลูกหนี้ปกติเท่านั้นครับ ขอให้เพื่อนๆทุกคน โชคดีครับ

ติดตามคลิปดีๆ ในแวดวงการเงิน การธนาคาร และอสังหาริมทรัพย์ ได้ที่ YouTube

และติดตามผมต่อได้ที่ facebook/AntonioAttorney

สนใจให้ผมเป็นที่ปรึกษาการเงินส่วนตัว คลิกเลยครับ

ติดต่อ ผมที่ email : antonioattorney@gmail.com หรือ LineID : @antonioattorney

Leave a Reply